Sponsored


Tuesday, April 6, 2010

ไตรโทน คุณคือค่ายเพลง ค่ายเพลงก็คือคุณ

ไตรโทน คุณคือค่ายเพลง ค่ายเพลงก็คือคุณ



คมชัดลึก : เดาออกมั้ยครับว่ามันจะเป็นเรื่องประมาณไหน?







จริงๆ แล้ว บทความวันนี้แค่อ่านหัวข้อของเรื่องก็จบในตัวได้เลย คือมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ นะครับ ถ้าคุณมีไฟอยู่ หรือมีไฟพอ ที่จะสร้างงานเพลง หรือมีลูกหลานที่มีไฟทางด้านนี้ที่กำลังหาค่ายเพลง โปรดฟังทางนี้ครับ คุณคือค่ายเพลง ค่ายเพลงก็คือคุณ คือเรามาคุยกันใหม่ เรามารีเซตกันใหม่ เราล้างสมองของเราเกี่ยวกับการโปรโมทเพลงในแบบอดีตกันก่อนนะครับ หมายถึงเรื่องถ่ายปกซีดี…ถ่ายมิวสิกวิดีโอ...ตลอดจนซื้อสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ โทรทัศน์ ที่ต้องให้ตัดเรื่องนั้นออกไป เพราะแค่คิดก็เจ๊งแล้วครับ เพราะเพลงที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ไม่ได้ผ่านกระบวนการแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว ซึ่งผมก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่าเหตุใดเพลงที่ดังในยุคนี้ มันถึงดังได้ เมื่อก่อนอาจจะพูดได้ง่ายๆ ครับว่า เพลงต้องฟังดี ฟังไพเราะเสนาะหู ปรากฏว่าเพลงก็ล้วนแต่ฟังเพราะทุกเพลงแหละครับ แต่ทำไมถึงไม่ได้ดังกันทุกเพลง ปัจจัยต่างๆ ก็คิดกันไป ตามทฤษฎีแบบของใครของมันละกัน 
 เอาประมาณว่า เพลงดี เนื้อดี นักร้องดี ก็น่าจะพอมีโอกาส แล้วก้ต้องกลับมาทฤษฎีที่ว่า แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งพรจากพระเจ้านั้นมันลำบากจริงๆ
 เอาล่ะ กลับมาเรื่องค่ายเพลงก็คือตัวคุณกันต่อนะครับ คือถ้าเป็นนักร้องจากยุคก่อนๆ แบบเราๆท่านๆ เนี่ย ก็ยังคงต้องมีเรื่องราวพัวพันกับค่ายเพลงอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของลิขสิทธิ์เพลง ซึ่งมันน่าปวดหัวและน่าเบื่อมากกับเรื่องนี้ ซึ่งผมจะพูดต่อไปในโอกาสหน้า กับไอ้เรื่องสองมาตรฐานของการเรียกเก็บ ระหว่างนักร้องที่ค่ายปลดระวางไปแล้ว แต่ยังพอหาเช้ากินค่ำกันได้อยู่ กับนักร้องที่ยังอยู่ในความดูแลของค่าย
 หัวข้อนี้สำคัญมากครับ เกินกว่าจะมาเป็นบทความในวันนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ต้องพูดกันในที่โล่งแจ้ง ประเภทหาผู้สนับสนุนโดยการลงนามห้าหมื่นชื่อ แล้วเสนอเข้าสภาผู้แทนฯ ให้ตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างแก้กฎหมายลิขสิทธิ์คุ้มครองผู้ที่มีส่วนในการทำให้เพลงนั้นดัง ในเงื่อนไขระยะเวลาที่จะนำไปทำมาหากินได้บ้างโดยไม่ถูกบีบจากเจ้าของสิทธิ์  เป็นไงครับ แค่ชื่อเรื่องก็มันแล้ว โดยมีผมเป็นแกนนำ
 นักร้องที่ปลดระวางก็มีแบบสองมาตรฐานอีกนะครับ คือประเภท "อันตราย" หมายถึง สัญญาหมด แต่คุณภาพยังได้อยู่ หรือยังดีอยู่เลย (ปัญหานี้มักจะมีคนโดนด่าเสมอครับว่าปล่อยหลุดไปได้ไง) กับอีกประเภท คือ สัญญาหมด เพราะขายไม่ได้แล้ว
 อันหลังนี่แหละตัวมาตรฐานที่สองเลย เอาเพลงไปร้องตามที่ต่างๆ สบายใจจัง ไม่โดนตามค่าโง่ ซึ่งมันแค่หลักร้อย เอาล่ะ เอาไว้รอให้เรื่องมันปะทุกว่านี้นะครับ ผมจะเดินถือธงพร้อมห้าหมื่นชื่อ เข้ากระทรวงพาณิชย์กันเลย
 ถ้าเป็นนักร้องนักดนตรีปัจจุบันที่ยังไม่มีพันธะกับที่ใดๆ เลย การทำค่ายเพลงในตัวคุณก็คือ กฎข้อที่หนึ่ง เพลงของคุณต้องฮิต เพลงฮิตคืออะไร เพลงฮิตคือ เพลงคุณได้ถูกส่งไปเปิดตามวิทยุ หรือในอินเทอร์เน็ตแล้วได้การตอบกลับมา
 ในสังคมอินดี้ หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่บอกว่าชอบเพลงของคุณ นั่นแสดงว่าเพลงคุณกำลังจะมา น่าสนับสนุนต่อ ถามว่าจะให้วิทยุเปิดได้อย่างไร ก็เดินไปหาเขาเองไง ไปเล่นให้ดูตามงานแฟต เรดิโอ หรือหากลุ่มที่เหมาะสม ค่ารถไม่กี่ตังค์ ถูกกว่าจ้างคนมาทำงานในตำแหน่งพีอาร์แน่นอน
 จากนั้นกลุ่มที่ชอบเพลงของคุณก็จะเริ่มทำงานให้คุณแบบไม่หวังค่าตอบแทนด้วย แล้วมันก็จะค่อยๆ ดำเนินตามครรลองของมัน จนไปถึงมีมิวสิกวิดีโอ ถูกเชิญไปสัมภาษณ์นู่นนี่ มีการนำเพลงของคุณติดตั้งระบบดาวน์โหลดได้ ตามมือถือหรือเว็บ ที่เข้ามาง้อขอเพลงคุณไปเป็นสินค้าโดยมีการจัดแบ่งตังค์ให้ด้วย จนไปถึงนำเพลงคุณไปทำเป็นซีดีขายตามแผง มีงานแสดงติดต่อมาบ่อยๆ จนพีคสุดก็คือ เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา นี่แหละครับ โรดแม็พของจริง ไม่มีโดนหักค่าคอมฯ รับเต็มๆ ในการที่จะให้ค่ายเพลงก็คือตัวคุณ ในระหว่างทางก็อาจมีการจ้างคนดีๆ มาช่วยงานนิดหน่อยสักคนหรือสองคน
 นี่คือขั้นตอนคร่าวๆ ที่จะมีโอกาสเป็นคนรวย ในคำว่าอาชีพนักดนตรีในปัจจุบันครับ ซึ่งผมขอย้ำกฎข้อที่หนึ่งคือ "เพลงต้องฮิตในอดีต" กฎข้อที่หนึ่งคือเพลงต้อง "เพราะ" 
 มันได้ถูกทำลายกฎเกณฑ์ไปหมดแล้วครับ สำหรับเพลงเพราะแล้วดัง มันไม่ใช่เพียงแค่นั้นอีกต่อไป
 ทีนี้เราลองมาดู ค่ายเพลงก็คือตัวคุณในรูปแบบ เพลงไม่เคยฮิตสักทีดูกันบ้าง ก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็แค่ทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรต้องเสีย เพราะต้นทุนมันคือสมองของคุณเท่านั้น ห้องอัดก็ไม่มีแล้วมั้ง ที่ต้องเช่าเนี่ย ทำไปเรื่อยๆ ทำไปด้วยความรัก แบบกัดไม่ปล่อย เดี๋ยวมันมาเองครับ ลองดูซิครับ มันต้องจ่ายเงินเดือนใครตรงไหน
 ซึ่งจริงๆ แล้วผมว่าการที่ไม่มีเพลงฮิตสักทีเนี่ย ทำให้คุณทำย้ำๆ ซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนเป็นที่รู้จักบ้างเล็กน้อย แล้ววันนึงมีเพลงโดนเต็มกบาลขึ้นมาล่ะก็ คุณจะดูแข็งแรงอย่างมาก ถึงมากที่สุดขึ้นมาเลยทีเดียว
 แต่อย่างว่าแหละครับ โรดแม็พที่กล่าวมานั้นมันไม่ง่ายหรอกครับ แต่การหยุดที่จะสู้ต่อนั้น อันตรายกว่ามาก ยุคนี้ครับมันไม่ง่าย แต่ประตูก็ไม่ได้ปิดสนิทเลยทีเดียว อุปสรรค คือความสำเร็จที่ยังมาไม่ถึง
 ข้อดีของการมีค่ายเพลงที่หนุนคุณจนดังก็มีครับ คือ หนึ่งไม่ต้องนั่งแต่งเพลงเอง เลือกฟังเดโมเอาเลย ก็มีสองมาตรฐานอีกเช่นกัน เช่นแบบที่หนึ่ง ดังแล้วเลือกได้ กับเด็กใหม่นั่งเงียบๆ คุณอยากเป็นแบบไหนเลือกเอาครับ
 ส่วนแผนงานโปรโมท ไม่ต้องคิดเลยมีคนทำให้หมด แบบใช้ตังค์มหาศาล แล้วถ้าเจ๊งเป็นไงครับ ก็อยู่กับก๋งไปเลย
 แต่ถ้าสำเร็จก็ดีใจด้วยครับ แต่...เงินจากซีดีมันมาน้อย งานเล่นสดก็ถูกหัก งานจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ไม่รู้ต้วเลขจริง หรือถูกหักเยอะ และปัญหาก็จะตามมาทีหลังอีกเพียบ แต่คุณต้องเคารพตรงจุดนี้ ซึ่งผมก็เคารพเช่นกันครับ คนทำค่ายเพลงต้องทำอย่างนี้ทุกคน จริงๆ น่าจะสดุดีด้วยครับ เพราะถ้าเขาปิดไม่ให้มีค่ายก็ไม่ผิดอะไร เพราะความเป็นจริงมันไม่มีค่ายเพลงแล้วก็ได้ แต่ด้วยใจรักและอยากจะให้มีการเก็บหัวคิวกันต่อไป จึงยังต้องมีค่ายเพลงกันอยู่บ้าง ค่ายก็หันไปทำหนังกันบ้าง ทำซิทคอม ในทีวีกันบ้าง แล้วก็นำกำไรไปเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกันไป
 ทุกอย่างย่อมปรับตัวตามสถานการณ์เสมอครับ ถ้าโรดแม็พที่ว่ามาสามารถนำไปประยุกต์กับงานอาร์ตต่างๆ ที่เล่นกับมวลชน น่าจะดีนะครับ ลองดู
 ทุกวันนี้ มี facebook myspace hi5 twitter และอีกมากมาย ในขณะเดียวกันกับที่ค่ายเพลงใหญ่ๆ ก็บริหารงานทางโลกไซเบอร์เป็นส่วนใหญ่... 
 แล้วคุณนักแต่งเพลงทั้งหลายทำไมไม่เป็นค่ายเพลงซะเองละครับ
"จิรายุส วรรธนสิน"










NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive