Sponsored


Wednesday, April 14, 2010

กิจกรรมกระชับสัมพันธ์ ใน...วันครอบครัว

กิจกรรมกระชับสัมพันธ์
ใน...วันครอบครัว





คมชัดลึก : ครอบครัวถือเป็นปัจจัยหลัก ที่ผลักดันให้ศิลปินโด่งดัง แต่เมื่อความโด่งดังมาถึง เวลาที่ให้แก่ครอบครัวก็น้อยลงไปด้วย ซึ่งศิลปินแต่ละคน เมื่อมีเวลาก็อยากที่จะอยู่กับครอบครัว และทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน อย่าง "ชิน" ชินวุฒ อินทรคูสิน ที่ถึงครอบครัวจะไม่ได้สมบูรณ์ในเรื่องของรูปธรรม เพราะขาดคุณพ่อไปจากการหย่าร้าง แต่ในความรู้สึกแล้ว ครอบครัวนี้ถือเป็นครอบครัวตัวอย่าง ทั้งที่เป็นครอบครัวเล็กๆ ที่มีเพียงคุณแม่ชิน และน้องสาวเท่านั้น โดย ชิน เผยว่าช่วงนี้เขาทำงานหนักมาก จนไม่มีเวลาให้แก่ครอบครัวเลย แต่เมื่อใดที่มีเวลา เขา คุณแม่และน้องสาวจะหลบหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงไปเที่ยวทะเลภูเก็ตที่เงียบสงบในแบบครอบครัวที่รักธรรมชาติ








 "ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลา ที่จะอยู่ด้วยกันสักเท่าไหร่ ชินเองก็ต้องทำงานทุกวัน แต่ถ้ามีเวลาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา เราก็จะไปต่างจังหวัดกัน ซึ่งก็จะไปทะเล อย่างทะเลภูเก็ต เพราะว่าชินเองเคยอยู่ภูเก็ต แล้วน้องของชิน ก็เกิดที่ภูเก็ตด้วย ครอบครัวชินเป็นครอบครัวที่รักธรรมชาติมาก และชอบเที่ยวสถานที่ที่คนยังไม่ค่อยไปกัน" ชินเล่า
 ก่อนจะเผยว่าเขาเป็นคนที่รักครอบครัวมาก และคิดเสมอว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวมีความสุขที่สุด
 “ชินเป็นคนรักครอบครัวมาก ทุกวันนี้ที่ทำทุกอย่าง ก็เพื่อครอบครัวทั้งหมด อยากที่จะให้แม่สบาย และก็อยากให้น้องมีความสุข เพราะแม่สอนทั้งชินและน้องมาตลอด ว่าครอบครัวเป็นทุกอย่าง ซึ่งครอบครัวชิน จะเป็นครอบครัวที่แสดงความรักกันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะในความรู้สึกของชินครอบครัวเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เพราะสำหรับชินแล้ว คำว่าครอบครัว คือทุกอย่าง เป็นทั้งจุดมุ่งหมาย ทั้งปลายทาง และความสำเร็จ แล้วทุกครั้งที่ชินมีปัญหาทั้งเรื่องงานหรือเรื่องต่างๆ การได้กลับมาบ้านมาอยู่กับครอบครัว จะทำให้สบายใจขึ้น เพราะแม่ชินเป็นที่ปรึกษา เป็นเพื่อน เราสามารถคุยได้ทุกเรื่อง และเวลาที่เราท้อแท้ เขาก็พร้อมจะเป็นกำลังใจให้ ชินเป็นหลักที่หาเงินเข้าครอบครัว แต่ชินไม่รู้สึกว่าชินเป็นหัวหน้าครอบครัว เพราะครอบครัวของชินไม่มีใครเป็นผู้นำใคร แต่เราเป็นคนที่ดูแลกันและกันมากกว่า" ชินเผย
 ฟาก "ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เองก็มีภาพลักษณ์ในเรื่องของการเป็นแฟมิลี่แมน เพราะทุกครั้งที่เห็น ฟิล์ม ก็จะมีคุณแม่และพี่ชายอยู่ด้วยเสมอ โดย ฟิล์ม เล่าถึงกิจกรรมในครอบครัวที่ทำกันมาตลอดอย่างการไปทำบุญ ที่คุณพ่อคุณแม่ของเขาปลูกฝังมาให้ตั้งแต่เด็ก
 "กิจกรรมของครอบครัวฟิล์มเมื่อยามว่าง คือการไปทำบุญที่วัด เพราะครอบครัวฟิล์มชอบทำบุญมาก และคุณพ่อคุณแม่ก็จะปลูกฝังให้ผมเป็นคนชอบการทำบุญ ชอบไปวัดมาตั้งแต่เด็ก" ฟิล์มอธิบาย ก่อนจะเล่าต่อว่าการที่เขามีอย่างทุกวันนี้ได้ก็เพราะครอบครัว
 "กว่าฟิล์มจะก้าวมาถึงตรงนี้ได้ ก็ต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก ซึ่งบอกตรงๆ ว่าก็มีท้อบ้าง เพราะว่าบางเรื่องมันก็เกินที่เราจะทนได้ แต่ที่ฟิล์มผ่านมันมาได้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะครอบครัว แม่เคยบอกกับฟิล์ม ว่าไม่ว่าใครจะว่าอะไรหรือไม่ชอบอะไรในตัวฟิล์ม แต่ฟิล์มก็ยังมีคนที่รักฟิล์ม และคอยอยู่ข้างๆ ฟิล์มเสมอ ซึ่งก็คือครอบครัวของฟิล์มนั่นเอง เพราะฉะนั้นสำหรับฟิล์มแล้วครอบครัวคือชีวิตทั้งหมด และถ้าวันไหนที่ไม่มีครอบครัว ฟิล์มก็ไม่สามารถที่จะอยู่ได้ หลายคนบอกว่าฟิล์มเป็นแฟมิลี่แมน ซึ่งฟิล์มยอมรับ เพราะฟิล์มเป็นคนที่ติดครอบครัวมาก" ฟิล์มกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
 เช่นเดียวกับครอบครัวตัวอย่างของ "โต๋" ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ที่ถึงตัว หนุ่มโต๋ จะอยู่ไกลถึงไต้หวัน แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าห่างจากครอบครัวเลย เพราะว่าทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ครอบครัวจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอด และทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน โดยเฉพาะกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรี
 "จริงๆ ทุกคนในครอบครัวไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันมากเท่าไหร่ เพราะว่าต่างคนต่างก็มีหน้าที่ของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่เรามีเวลาได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เราก็จะให้เวลากันและกันมากที่สุด ส่วนใหญ่เวลาที่อยู่ด้วยกันกิจกรรมที่ทำร่วมกันคือการไปโบสถ์ เพราะครอบครัวเราเป็นคริสเตียน การไปโบสถ์ ก็จะได้ร้องเพลงได้ฟังเพลงบ่อยๆ มันทําให้เราซึมซับตรงนี้ และทำให้เราเป็นคนที่รักในเสียงดนตรี" โต๋กล่าว
 ก่อนจะเล่าถึงครอบครัวว่าเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีความรักความอบอุ่นให้กัน จนไม่มีอะไรที่ทำอันตรายพวกเขาได้ เพราะว่าครอบครัวล้อมรั้วด้วยความรัก
 "ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่ คือพี่ ป้า น้า อา สนิทสนมกลมเกลียวกันหมด มีอะไรก็ช่วยกันให้คําปรึกษาให้คําแนะนํา แต่ไม่มีใครบังคับว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เรียกว่ากําลังใจดีมากๆ โต๋ว่าถ้าครอบครัวไหนมีความรักให้กัน โดยมันไม่อึดอัดจนเกินไป ก็มีแต่ความสดใสในครอบครัว และโต๋ก็รู้สึกว่าโต๋เป็นคนที่โชคดีมากที่บ้านเราล้อมรั้วด้วยความรัก" โต๋เล่าด้วยความซาบซึ้ง
 เช่นเดียวกับ "มด" ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ ที่รู้ซึ้งถึงคำว่าครอบครัวและการอยู่กับครอบครัว โดย มด เผยว่าเป็นเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่เคยหลงผิดคิดตีจากครอบครัวไป แต่พอวันหนึ่งก็รู้ซึ้งว่าการได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมันมีความสุขมากแค่ไหน โดย มด เผยถึงกิจกรรมที่ทำร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ในฐานะลูกคนเดียว
 "ส่วนใหญ่มดก็จะมีแม่ไปไหนมาไหนด้วยตลอด ส่วนป๊าก็ทำงาน แต่ก็จะมาคอยดูแลขับรถให้เมื่อเขาว่าง กิจกรรมที่จะทำกันเป็นประจำเวลาอยู่ด้วยกัน คือ การทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา ก็จะทานที่บ้านบ้าง หรือไม่ก็ไปทานนอกบ้านบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะทานที่บ้าน เพราะว่าเราก็จะได้นั่งกินกันไปคุยกันไป อย่างมดเป็นลูกคนเดียวเวลาที่เหงาๆ หรือมีอารมณ์เปลี่ยวๆ หน่อย เราก็จะวิ่งไปนอนห้องป๊ากับแม่ เหมือนตอนเรายังเด็กๆ" มดบรรยายให้เห็นภาพ และเล่าว่าความเป็นเด็กและความดื้อรั้น จนทำให้เกิดมรสุมมากมายในชีวิต ทำให้รู้เลยว่าไม่มีใครที่รักเรามากเท่าครอบครัวอีกแล้ว
 "มดเจอปัญหาอะไรมาเยอะมาก มันทำให้มดรู้เลย ว่าครอบครัวสำคัญอย่างไร ถ้าไม่มีครอบครัว มดเองก็อาจจะเป็นอะไรที่แย่กว่านี้ไปแล้ว แต่ครอบครัวช่วยสอนให้มดรู้ ว่าใครที่รักเราจริง ป๊ากับแม่คือคนที่รักมดมากที่สุด และเสียใจมากที่สุดกับเรื่องของมด แต่ก็ไม่เคยทิ้งมดไปไหนเลย คอยเป็นกำลังใจและอยู่ข้างมดตลอด ไม่ว่าใครจะว่าอะไรมดหรือมองมดยังไงก็ตาม" นักร้องสาวเจ้าปัญหาเผย
 การมีเวลาให้แก่กันในครอบครัว ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน จะคอยช่วยเสริมให้สายใยรักในครอบครัวเหนี่ยวแน่นมากขึ้น










NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive