Sponsored


Wednesday, April 10, 2013

มาดูกับมาดาม: คู่กรรมของโกโบริ

มาดูกับมาดาม: คู่กรรมของโกโบริ
เมื่อณเดชน์รับบทเป็นโกโบริ ร้อยเอกชาวญี่ปุ่นที่มีใจรักมั่นกับสาวไทยใจแข็งอย่างอังศุมาลิน... “คุณมีเหตุผลของคุณ ผมมีหัวใจของผม” เชื่อว่าช่วงนี้หลายคนคงได้ยินประโยคข้างต้นจนเอียน ก็แหม...คำพูดกระชับแต่ได้ใจความลึกซึ้งเช่นนี้ หาไม่ได้ง่ายๆ บวกกับตัวละครและปริบทที่หมายความถึง ส่งให้คำพูดคมบาดจิตวรรคนี้แพร่ระบาดไปไกล งานนี้ใครไม่เคลิ้มอาจเข้าข่ายหัวใจด้านชา เพราะพ่อหนุ่มบักแบร์-ณเดชน์ คูกิมิยะ เป็นผู้สวมบทโกโบริ ร้อยเอกสุดหล่อจากประเทศญี่ปุ่น ตกหลุมรักสาวไทยใจเด็ดอย่างอังศุมาลินเข้าโครมเบ้อเร่อ ตั้งแต่จำความได้ ถ้าจำไม่ผิด เคยมีโอกาสดู “คู่กรรม” หลายเวอร์ชั่นค่ะ แต่ที่ติดตาตรึงใจและเป็นภาพแรกของความทรงจำเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ คงเป็นเวอร์ชั่นของพี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ กับกวาง-กมลชนก เขมะโยธิน (โกมลฐิติ) ฉายทางช่องเจ็ด ลอยมาหมดตั้งแต่หิ่งห้อย ต้นลำพูและทางช้างเผือก นับว่าเพลงประกอบละครเขาทำมาดีค่ะ ร้องหรือจำเนื้อเพลงได้ รับรองว่าจำเรื่องได้หมดแน่ๆ เพราะใจความสำคัญรวมถึง Gimmick ต่างๆ ของเรื่องอยู่ในเพลงนี้แหละค่ะ ที่สำคัญด้วยความเป็นละคร ทำให้รายละเอียดหรือฉากหวานต่างๆ ยังอยู่ครบ แม้จะดูขาดๆ เกินๆ ตามมีตามเกิด เพราะคุณภาพโปรดักชั่นเวลานั้นไม่ค่อยเนียนเหมือนในยุคนี้ แต่เชื่อว่าฉากพ่อดอกมะลิ (ฉายาที่คนในครอบครัวอังศุมาลินเรียกโกโบริ) กำลังจะตาย คงบีบน้ำตาและเค้นอารมณ์คนดูไม่น้อย มาดามก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ สงสารพ่อดอกมะลิของเรา ตายแล้วยังจะขอไปรอที่ทางช้างเผือก...เข้าทำนอง ถึงตัวตายใจยังอยู่ และจะเฝ้าดูเธอไม่ห่าง หวานหยดซะ!โกโบริกับอังศุมาลินเวอร์ชั่นภาพยนตร์ 2013หลังจากนั้นก็มีตามมาอีกมากมาย ทั้งเวอร์ชั่นภาพยนตร์ ละครเวทีและแม้แต่เวอร์ชั่นละคร ล่าสุดก็คือเวอร์ชั่น “โกโบบี้” หรือ บี้ เดอะสตาร์ ประกบกับหนูนา-หนึ่งธิดา นี่ก็เป็นที่ฮือฮาไม่น้อย ส่วนตัวมาดามคิดว่าพ่อโกโบบี้นี้ออกจะร่าเริงเกินไปสักหน่อย แต่อย่างไรก็ได้อรรถรสไปอีกแบบค่ะ ไม่ต้องเศร้าจนต้องปิดประตูล็อกห้องร้องไห้คนเดียวเหมือนตอนอ่านนิยายแน่ๆตัวอย่างซีนหวานๆ ท่ามกลางกองขี้เถ้าจากระเบิดมาถึงตอนนี้ปี 2013 เรามีคู่กรรมเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่มีโกโบริหล่อและน่ากอดที่สุดอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ ประกบกับนางเอกใหม่ ริชชี่-อรเณศ ดีคาบาเลส ผู้รับบทอังศุมาลิน หญิงไทยมาดนิ่งที่ปากไม่ตรงกับใจอย่างแรง สำหรับเวอร์ชั่นนี้ถูกนำมาตีความใหม่โดยผู้กำกับ เรียว กิตติกร ขอบอกเลยว่าใครที่คาดหวังจะเห็นซีนรักหวานๆ หรืออารมณ์พ่อแง่แม่งอนเหมือนที่ผ่านมา ขอบอกว่า...หมดสิทธิ์ค่ะ เพราะเวอร์ชั่นนี้เขาเน้นความขัดแย้งในใจของตัวละครเอก ประมาณว่ารู้สึกรักแต่แสดงออกมาไม่ได้ เพราะมันขัดต่อหน้าที่และความรับผิดชอบฟังดูไม่ค่อยแปลกใหม่และยากจะเข้าใจใช่ไหมคะ เข้าใจยากจริงๆ แหละค่ะ มาดามสันนิษฐานว่าคงเพราะทีมผู้สร้างต้องการความแปลกใหม่ และคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าคนดูทั่วประเทศรู้เรื่องคู่กรรมโดยละเอียด เพราะฉะนั้น...ที่มาที่ไปและความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ ในเรื่องจึงไม่ค่อยชัดเจนนัก ก็อย่างที่เกริ่นแล้วตอนต้น ว่าเน้นความรักระหว่างสองตัวละครหลัก เรียกง่ายๆ ว่าเป็นเรื่องรักๆ ของโกโบริกับอังศุมาลินล้วนๆ “ชั่วชีวิตของคนเรา หากจะเลือกรักใครได้สักคนด้วยหัวใจทั้งหมด ผมก็ได้เลือกแล้ว และถ้าผมจะต้องได้รับความทรมานเพราะรักใครสักคนหนึ่ง ผมก็ยินดี ผมรักคุณ...ถึงยังไงก็ยังรักอยู่นั่นเอง รักทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกับผมเลย”ที่ว่าเป็นคู่กรรมของโกโบริก็ด้วยเหตุผลสองอย่าง อย่างแรกก็เพราะเวอร์ชั่นนี้ “โกแบรี่” ของเราทำงานหนักมากค่ะ นอกจากมาดามจะขอชื่นชมในความใจกล้าของผู้กำกับที่เลือกตีความบทประพันธ์คลาสสิกที่คนเกือบครึ่งประเทศรู้จักดีแล้ว ก็เห็นจะมีณเดชน์นี่แหละค่ะที่ต้องขอยืนปรบมือให้จากใจจริง แม้จะหล่อแซงหน้าโกโบริในหนังสือ แต่ความพยายามและการสวมบทบาทชนะเลิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพูดภาษาไทยด้วยสำเนียงญี่ปุ่น เล่นเอามาดามยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ รู้สึกว่าเขาทำได้จริงๆ ไม่ใช่แค่ว่าซ้อมแบบขอไปทีนอกจากนี้โกแบรี่ยังทำให้เชื่อค่ะว่า เขารักและแคร์แม่อังมาก...จนคนดูแทบลืมข้อเสียบางอย่างของเวอร์ชั่นนี้ไปเลย และนี่ก็คืออย่างที่สอง “คู่กรรมของโกโบริ” ความหมายตรงตัวก็คือแม่อังศุมาลินยังไงล่ะคะ นับว่าเป็นจุดอ่อนของเรื่อง อย่าเพิ่งเข้าใจว่ามาดามจะซ้ำเติมน้องริชชี่ ขอตบบ่าให้กับความพยายามนะคะ แต่เอาจริงๆ คงต้องมากกว่านี้ เพราะเชื่อว่าหลายคนคงไม่คาดหวังจะเจออังศุมาลินในเวอร์ชั่นเกรียนและเย็นชา (มาก) ขนาดนี้ อย่างไรก็ดี..น้องก็ทำได้ดีในบางฉาก ส่วนตัวมาดามชอบฉากจบที่พ่อดอกมะลิกำลังจะตาย ดูเหมือนจะเป็นซีนเดียวที่น้องดูมีออร่า เป็นอังศุมาลินที่กำลังใจเสีย ต้องสูญเสียคนรักที่เพิ่งรู้ตัวว่ารักอะไรประมาณนี้วนัท: พระรองของเรื่อง ต้นเหตุปมปัญหาที่ทำให้อังศุมาลินของเราลำบากใจสุดท้ายแม้มาดามจะไม่ได้เห็นหิ่งห้อย ต้นลำพูและทางช้างเผือก มาดามก็ได้เห็นความรักยิ่งใหญ่ของผู้ชายคนหนึ่งที่รักผู้หญิงคนหนึ่งอย่างสุดหัวใจ แม้จะต้องขัดกับหน้าที่และความรับผิดชอบต่อประเทศชาติก็ตาม ถ้าใครอยากดูหนังรักแบบแนวๆ อาจจะชอบ แต่สำหรับใครที่ยังฝังใจกับนิยายรักโรแมนติกของคุณทมยันตี คงไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่นัก เพราะขาดฉากสำคัญไปหลายตอน ความละเมียดละไมและความอ่อนหวานลึกซึ้งของตัวละครเอกขาดหายไป กลายเป็นหนังรักวัยรุ่นแบบเกรียนๆ ที่รักและโกรธกันง่ายๆ โดยไม่ค่อยมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือนักแต่ก็ไปดูกันเถอะค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าคือ “คู่กรรมของโกโบริ” โกแบรี่ช่วยได้ทุกอย่างจริงๆ “อนาตะ โอ อาอิชิ มาสุ...ผมรักคุณเสมอ”จนกว่าจะพบกันใหม่สัปดาห์หน้า ขอให้มีความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์ค่ะ มาดามอองทัวร์Twitter: @MadamAutuer Trailer 1:ตัวอย่างภาพยนตร์ คู่กรรม (2013)

No comments:

Post a Comment

Blog Archive