ค่าย เวฟ พิคเจอร์ส จับ 2 นักร้อง ชิน-ชินวุฒ อินทรคูสิน และ น้ำชา-ชีรณัฐ ยูสานนท์ มาเล่นหนังแนวสั่นประสาทเรื่องแรกใน ทองสุก 13 ผลงานการกำกับโดย คุ้ย ทวีวัฒน์ วันทา จะน่ากลัวแค่ไหนนะ ไปคุยกับ ชินและน้ำชากันเลย ชิน-ชินวุฒ บอกว่า “เริ่มแรกคุณแป๊ป ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ โปรดิวเซอร์หนังเรื่อง ทองสุก 13 มาเล่าให้ฟังว่ามีพล็อตหนัง แบบนี้อยากให้ผมเล่น ได้ฟังแล้วรู้สึกว่ามันน่าสนใจ โดยส่วนตัวผมจะเป็นคนชอบทำอะไรที่ไม่ถนัด เพราะรู้สึกว่ามันได้ท้าทายตัวเองดี ไม่เหมือนกับการทำงานเพลงที่เราทำมา 10 ปี แล้ว แล้วการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้มันแตกต่างจากที่เคยเล่นซีรีส์โทรทัศน์มา ผมก็เลยอยากจะท้าทายตัวเองดู ยิ่งรู้ว่าได้เล่นกับน้ำชา ก็รู้สึกว่าน่าจะทำได้ดีและสนุกเพราะเราสนิทกันอยู่แล้ว ทั้งที่จริงๆ ด้วยหลายอย่างทั้งเรื่องคิว เรื่องงาน ที่ไม่ลงตัว ทำให้ตอนแรกผมเกือบจะไม่ได้เล่นหนังเรื่องนี้แล้ว แต่ทางแกรมมี่เข้าใจว่าผมอยากเล่นมาก “ทางพี่อั๋นที่เป็นผู้บริหารค่าย Duckbar ที่ผมสังกัดอยู่เล็งเห็นว่าผมอยากทำจริงๆ จึงพยายามเคลียร์คิวทุกอย่างเพื่อเทคิวมาให้ถ่ายหนังเรื่องนี้จนได้ ดีใจมากๆ เลย ผมได้อ่านบทเรื่อง ทองสุก 13 แล้วผมรู้สึกว่าเรื่องมันมีประเด็นนำเสนอหลายอย่าง มีเรื่องเกี่ยวกับความรัก การแกล้งกันระหว่างเพื่อน เกี่ยวกับครอบครัวด้วย ซึ่งส่วนตัวผมเป็นคนที่รักครอบครัวมาก เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวผมด้วยเช่นกัน ผมว่าคนดูแล้วน่าจะได้คิดว่าการที่เราแกล้งเพื่อนที่อ่อนแอกว่าแบบหนักๆ มันไม่ใช่เรื่องที่ดี มันน่าสงสารมากกว่านะครับ ซึ่งข้อคิดอันนี้ผมรู้สึกว่ามันเป็นแกนที่สำคัญ แต่แกนของเรื่อง ที่เพื่อนกระทำต่อเพื่อนด้วยกันนี่มันเป็นจุดที่น่าสนใจมากและดีเลยครับ”ส่วนทางด้าน น้ำชา-ชีรณัฐ กล่าวว่า “สนใจและอยากลองทำงานในศาสตร์แขนงอื่นที่นอกเหนือไปจากการร้องเพลง ดีใจที่ได้มาทำงานด้านการแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะได้ร่วมงานกับเพื่อนนักแสดงที่รู้จักและสนิทกันหลายคน อย่าง ชินวุฒ เพื่อนนักร้องร่วมค่ายแกรมมี่, ฌอห์ณ จินดาโชติ และ น็อต-อัครณัฐ สองหนุ่มซ่าคู่ซี้พิธีกรจากรายการเวคคลับแล้ว น้ำชาคิดว่าหนังแนวสยองขวัญนี้เป็นหนังที่ต้องใช้ความพยายาม และความสามารถด้านการแสดงสูง ก็รู้สึกว่ามันท้าทายดี ทำให้อยากเล่นหนังเรื่องนี้มาก ด้วยความที่หนังมันมาจากความเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ทำให้ต้องใช้อารมณ์สดในการแสดงเพื่อไม่ให้ดูโอเวอร์เกินจริง เป็นงานที่สนุกและท้าทายความสามารถของตัวเราอย่างมาก.
No comments:
Post a Comment